หน่วยที่2 Drawing Paths

2 Drawing Paths

การวาดภาพโดยใช้รูปทรงสำเร็จ

รูปเลขาคณิตและรูปร่างที่ใช้กันบ่อย ๆ ได้แก่ สี่เหลี่ยมจัตุรัส

สี่เหลี่ยมผืนผ้า สี่เหลี่ยมมุมมน สามเหลี่ยม วงกลม วงรี รูปหลายเหลี่ยม

รูปดาว ฯลฯ ซึ่งสามารถสร้างได้ง่าย ๆ ด้วยเครื่องมือในกลุ่ม Shape Tool

ซึ่งมีทั้งหมด 6 ชนิดคือ

1. Rectangle Tool ใช้สร้างสี่เหลี่ยมทั้งจัตุรัสและผืนผ้า

2. Rounded Rectangle Tool ใช้สร้างสี่เหลี่ยมทั้งจัตุรัสและผืนผ้าที่มีมุมโค้งมน

3. Ellipse Tool ใช้สร้างวงกลมและวงรี

4. Polygon Tool ใช้สร้างรูปหลายเหลี่ยม เช่น สามเหลี่ยม ห้าเหลี่ยม หกเหลี่ยม ฯลฯ

5. Star Tool ใช้สร้างรูปดาว รูปหลายแฉก

6. Flare Tool ใช้สร้างรูปประกายรัศมี

เครื่องมือที่ช่วยในการวาดรูปร่างพื้นฐาน มีหลักการใช้อยู่ 2 แบบ เช่นเดียวกับ Line Tool คือ

1. วาดอิสระตามการแดรกเมาส์ (Freehand)

2. วาดโดยการระบุค่าต่าง ๆ ให้โปรแกรมคำนวณออกมาเป็นภาพ (Properties Specification)

การอธิบายเครื่องมือจะอยู่บนพื้นฐานการวาดทั้ง 2 แบบนี้ จะเลือกใช้วิธีการใดก็ขึ้นกับความต้องการ

และความถนัดของผู้ใช้ โดยมากการวาดแบบที่ 2 มักใช้เมื่อต้องการงานที่แม่นยำ เช่น งานอาร์ตเวิร์ก เป็นต้น

การวาดสี่เหลี่ยม วงกลมและวงรี

เครื่องมือที่ใช้ในการวาดสี่เหลี่ยม วงกลม และวงรี มีหลักการใช้งานคล้ายคลึงกันดังนี้

วิธีที่ 1 การวาดเส้นแบบอิสระ (Freehand)

วิธีการทำมีขั้นตอนดังนี้

1. คลิกเครื่องมือ รูปสี่เหลี่ยม สี่เหลี่ยมมุมมน หรือวงรี ตามต้องการ

2. ถ้ายังไม่ได้เปิดหน้าต่าง Stroke Palette และ Swatch Palette ให้เปิด Palette ทั้งสองโดยไปที่

เมนู แล้วเลือก Window > Stroke (หรือกด F10 ) และ Window > Swatches

3. เลือกขนาดของเส้นที่ Stroke Palette ในช่อง Weight

4. คลิกที่ Stroke Box คลิกเลือกสีที่ Swatch Palette เป็นการกำหนดสีให้กับเส้น

5. คลิกที่ Fill Box

6. คลิกเลือกสีที่ Swatch Palette เป็นการกำหนดสีให้กับวัตถุ

7. แดรกเมาส์บน Art board จากมุมหนึ่งไปยังอีกมุมหนึ่ง

การวาดสามเหลี่ยมและรูปหลายเหลี่ยม

เครื่องมือที่ใช้ในการวาดรูปสามาเหลี่ยมและรูปหลายเหลี่ยมคือ เครื่องมือ Polygon Tool

วิธีที่ 1 การวาดเส้นแบบอิสระ (Freehand)

แดรกเมาส์ตามทิศลูกศร

แดรกเมาส์ตามทิศลูกศร

วิธีการทำมีขั้นตอนดังนี้

1. คลิกเครื่องมือ Polygon Tool

2. เลือกขนาดของเส้นที่ Stroke Palette ในช่อง Weight

3. คลิกที่ Stroke Box

4. คลิกเลือกสีที่ Swatch Palette เป็นการกำหนดสีให้กับเส้น

5. คลิกที่ Fill Box

6. คลิกเลือกสีที่ Swatch Palette เป็นการกำหนดสีให้กับวัตถุ

7. เลื่อนเคอร์เซอร์ไปยังตำแหน่งที่ต้องการให้เป็นศูนย์กลางของรูปหลายเหลี่ยม แล้วแดรก

เมาส์จนได้รูปในขนาดที่ต้องการ โดยขณะที่แดรกให้ลองหมุนเคอร์เซอร์ไปมา จะเป็นการ

หมุนรูปหลายเหลี่ยม

8. กดคีย์ Shift ค้างขณะแดรกเมาส์จะเป็นการสร้างรูปหลายเหลี่ยมที่ยืดออกในมุม 45องศา

เสมอไม่ว่าจะแดรกไปในทิศทางไหนก็ตาม

9. กดปุ่มลูกศรขึ้น-ลงขณะแดรกเมาส์ จะเป็นการเพิ่ม-ลดจำนวนด้านของรูปหลายเหลี่ยม โดย

จำนวนด้านที่น้อยที่สุดคือ รูปสามเหลี่ยม และจำนวนด้านที่มากที่สุดก็จะได้รูปใกล้เคียง

วงกลม

วิธีการวาดโดยการระบุค่าต่าง (Properties Specification)

วิธีการทำมีขั้นตอนดังนี้

1. คลิกเลือกเครื่องมือ Polygon Tool

2. คลิกบน Art board หรือดับเบิลคลิกที่รูปเครื่องมือ จะปรากฏหน้าต่างขึ้นมาเพื่อกำหนดค่า

ต่าง ๆ

3. ระบุค่าที่ต้องการแล้วกดปุ่ม OK

Radius คือรัศมีจากจุดศูนย์กลางไปยังจุดมุมของรูป ซึ่งเท่ากับความยาวของเส้น

ในแต่ละด้าน

Sides คือจำนวนด้านของรูปหลายเหลี่ยม

การวาดรูปหลายแฉก (Star)

วิธีการที่ 1 การวาดเส้นแบบอิสระ (Freehand)

วิธีการทำมีขั้นตอนดังนี้

1. คลิกเครื่องมือ Star Tool

2. ถ้ายังไม่ได้เปิดหน้าต่าง Stroke Palette และ Swatch Paletteให้เปิด Palette ทั้งสองโดยไปที่

เมนู แล้วคลิก Window > Stroke (หรือกด F10) และ Window > Swatches

3. เลือกขนาดของเส้นที่ Stroke Palette ในช่อง Weight

4. คลิกที่ Stroke Box

5. คลิกเลือกสีที่ Swatch Palette เป็นการกำหนดสีให้กับเส้น

6. คลิกที่ Fill Box

7. คลิกเลือกสีที่ Swatch Palette เป็นการกำหนดสีให้กับวัตถุ

8. เคลื่อนเคอร์เซอร์ไปยังตำแหน่งที่ต้องการให้เป็นศูนย์กลางของรูปหลายแฉก แล้วแดรก

เมาส์จนได้รูปในขนาดที่ต้องการ โดยขณะที่แดรกให้ลองหมุนเคอร์เซอร์ไปมาจะเป็นการ

หมุนรูปหลายแฉก

9. กดคีย์ Shift ข้างขณะแดรกเมาส์จะเป็นการสร้างรูปหลายแฉกที่ยืดออกในมุม 45องศาเสมอ

ไม่ว่าจะแดรกไปในทิศทางไหนก็ตาม

10. กดปุ่มลูกศรขึ้น-ลงขณะแดรกเมาส์ จะเป็นการเพิ่ม-ลดจำนวนด้านของรูปหลายแฉก โดย

จำนวนด้านที่น้อยที่สุดคือรูปสามเหลี่ยม

วิธีที่ 2 การวาดโดยการระบุค่าต่าง (Properties Specification)

วิธีการทำมีขั้นตอนดังนี้

1. คลิกเลือกเครื่องมือ Star Tool

2. คลิกบน Art board หรือดับเบิลคลิกที่รูปเครื่องมือ จะปรากฏหน้าต่างขึ้นมาให้กรอกข้อมูล

3. ระบุค่าที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม OK

แดรกเมาส์ตามทิศลูกศร

Radius 1 คือระยะจากจุดศูนย์กลางไปยังจุดที่อยู่นอกสุด

Radius 2 คือระยะจากจุดศูนย์ไปยังจุดที่อยู่ในสุด

Points คือจำนวนแฉกของรูปหลายเหลี่ยม

ความสำคัญของ Path

“หากไม่มี Path ก็ไม่มีภาพ” เป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริงเลยสำหรับโปรแกรมนี้ เพราะ Path คือหัวใจ

ของโปรแกรมสร้างภาพแบบเวกเตอร์แทบทุกโปรแกรม ไม่ว่าจะเป็น Freehand Corel Draw แม้กระทั่ง Flashแต่ในขณะเดียวกัน เราอาจมีเส้น Path โดยไม่มีภาพได้

ธรรมชาติของ Path

Path ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ดังนี้

1. จุดปลายของ Path (End Point) หรือเรียกสั้นๆว่า “จุดปลาย” เป็นจุดที่อยู่ปลายสุดของPath ทั้ง

2 ด้าน คือ ทั้งจุดเริ่มต้นและจุดสุดท้ายของ Path

2. จุดยึด (Anchor Point) หรือเรียกกันว่า ” จุด Anchor” (แอง-เคอร์)เป็นจุดที่อยู่บนเส้นระหว่างจุด

ปลายทั้งสองด้าน ใช้เพื่อเปลี่ยนทิศทางของเส้น นึกภาพง่าย ๆ เหมือนกับการเดินสายไฟบนผนัง

ซึ่งต้องใช้หมุดยึดเมื่อต้องการเปลี่ยนทิศทางของสายไฟ

3. เส้น (Segment) ไม่ว่าจะเป็นเส้นตรงหรือเส้นโค้ง เกิดจากการเชื่อมต่อกันของจุด 2 จุดไม่ว่าจะ

เป็นจุดปลายหรือจุด Anchor จำนวนของเส้นมีผลต่อความนุ่มนวลของ Path (ใช้ในการสร้าง

ภาพแบบระบุค่า ซึ่งจะกล่าวถึงภายหลัง)

4. แขนปรับทิศทาง (Direction Line) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “แขน” เป็นตัวชี้บอกว่าเส้นจะโค้งไปทาง

ไหนและมีความโค้งมากน้อยเท่าไหร่

5. จุดปลายของแขนปรับทิศทาง (Direction Point) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “จุดปรับ” เป็นจุดที่อยู่ตรง

ปลายแขนปรับทิศทาง ใช้เป็นตัวบังคับให้ “แขน” ชี้ไปในทิศทางที่ต้องการซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้จะทำให้เกิด Path ที่มีรูปร่างแตกต่างกันไป รูปร่างของ Path มี 2 ลักษณะใหญ่ ๆ คือ

1. Path ที่เป็นรูปเปิด คือรูปร่างที่มีจุดปลายของ Path เป็นคนละจุดแยกจากกัน

2. Path ที่เป็นรูปปิด คือรูปร่างที่มีจุดปลายของ Path มาบรรจบกันและเป็นจุดเดียวกัน

Anchor และแขน (Direction Line) มีผลกับ Path อย่างไร

จุด Anchor และแขนเป็นตัวกำหนดรูปร่างของ Path ว่า Path นั้นจะไปในทิศทางไหน เป็นเส้นตรง

หรือเส้นโค้ง โค้งมากหรือโค้งน้อย ในการวาด Path เราจะใส่จุด Anchor ในตำแหน่งที่ต้องการเปลี่ยนทิศทาง

ของเส้น หรือต้องการดัดเส้นให้โค้ง แล้วลากแขนไปในทิศทางที่เราต้องการให้โค้งไปทางนั้น

จุด Anchor บน Path มี 2 ชนิดคือ จุด Anchor ที่เป็นมุม (Comer Point) และจุด Anchor ที่เป็นรอยต่อ

ของเส้นโค้ง (Smooth Point) ในการวาด Path ต้องเลือกใช้ Anchor ให้ถูกชนิดมาผสมกัน จึงจะได้เส้นที่

ต้องการ ดังตัวอย่าง

รูปที่ 1 คือจุด Anchor ที่ไม่มีแขน ทำให้เกิดเส้นตรงหักมุมต่อกัน

รูปที่ 2 คือจุด Anchor ที่มีแขน 1 ข้าง ทำให้เกิดเส้นโค้งและเส้นตรงต่อกัน

รูปที่ 3 คือจุด Anchor ที่มีแขน 2 ข้าง ทำให้เกิดเส้นโค้ง 2 เส้นต่อกัน

การวาดโดยใช้ Pen tool

  • • Pen เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวาดเส้นและรูป สามารถวาดได้ทั้งเส้นตรงเส้นโค้งวิธีการใช้งาน

1. เส้นเฉียง ใช้เครื่องมือ Pen Click บนกระดาษตามแนวที่ต้องการได้เลย

2. เส้นตรง ให้กดปุ่ม Shift ค้างไว้ แล้วใช้เครื่องมือ Pen Click บนกระดาษ เส้นที่ได้จะเป็นเส้นตรง

แนวตั้ง แนวนอน และเฉียง 45 องศา

3. เส้นโค้ง ใช้เครื่องมือ Pen Drag บนกระดาษจะมีแขนเกิดขึ้นตรงจุดที่ Drag จากนั้นให้ Drag จุด

ต่อไปนี้จะมีเส้นโค้งเกิดขึ้นระหว่างจุดแรกกับจุดที่สอง เมื่อ Drag จุดต่อไปจะมีเส้นโค้งเกิดขึ้น

ระหว่างจุดที่ Drag จะเป็นอย่างนี้เรื่อยไป

การเลือกวัตถุโดยใช้ Selection Tools

  • • Direct Selection เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเลือกวัตถุที่จะทำงานด้วย โดยวัตถุนั้นจะมีสถานะเป็น

Ungroup ชั่วคราว การใช้เครื่องมือชนิดนี้เพื่อแก้ไขรูปทรงของรูป

วิธีการใช้งาน

1. เป็นการเลือกแก้ไขจากจุด Anchor โดยตรงเมื่อแดรกเมาส์ไปที่จุดแล้วเลื่อนจะเห็นว่าจุดจะถูกย้าย

ตำแหน่งไปตามเมาส์และเส้นที่เชื่อมกับจุดนั้นก็เลื่อนตามไปด้วย

2. เป็นการเลือกแก้ไขจากจุด Direction Point นั้นจะสังเกตได้ว่าจุด Anchor ไม่ได้เลื่อนไปไหน จะ

เลื่อนไปก็เฉพาะแขนทั้งสองด้านเท่านั้น

3. เราสามารถแก้ไขโดยตรงจากเส้น Segment ได้ด้วยจากรูปจะเห็นว่ามีการยืดออกของเส้น Segment

และ แขน Direction Point แต่จุด Anchor ที่ยึดอยู่ทั้งสองข้างไม่มีการเปลี่ยนแปลง

  • • Group Selection เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเคลื่อนย้าย Object ออกจากกลุ่มงานที่ใช้คำสั่ง Group โดย

ชั่วคราว ( ขณะที่อยู่ใน View ที่เป็น Art work)

วิธีการใช้งาน

ขณะที่เป็น View-Art work ใช้เครื่องมือนี้ Drag Object ที่ต้องการแยกออกจากกลุ่มชั่วคราวจะเห็นได้ว่า

รูปที่ Drag เท่านั้นที่ Active ส่วนรูปอื่น ๆ จะไม่ Active

  • • Add Anchor Point เป็นเครื่องมือที่ถูกใช้ในการเพิ่มจุดบนเส้น เพื่อใช้งานกับจุดนั้น

วิธีการใช้งาน

นำเครื่องมือ Add Anchor Point มา Click บนเส้นก็จะเกิดจุดขึ้นตามที่ต้องการ

  • • Delete Anchor Point เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการลบจุดที่ไม่ต้องการออก

วิธีการใช้งาน

นำเครื่องมือ Delete Anchor Point มา Click ที่จุดที่ต้องการลบ จุดก็จะหายไป

  • • Convert Direction Point เป็นเครื่องมือในการเพิ่มแขน หรือหักแขนของจุด

วิธีการใช้งาน

1. เพิ่มแขนใช้ Selection Tool Click รูปที่ต้องการจะเพิ่มแขน หลังจากนั้นใช้เครื่องมือConvert Direction

Point Drag ที่จุด Anchor เพื่อเพิ่มแขนให้กับจุดนั้น

2. หักแขนใช้ Selection Tool Click รูปที่ต้องการจะหักแขน หลังจากนั้นใช้เครื่องมือ Convert Direction

Point Drag ที่จุดปลายแขนเพื่อหักแขนให้กับจุดนั้น

ใส่ความเห็น